1.) ราคา เราควรตั้งงบประมาณก่อนว่าเราจะซื้อราคาประมาณเท่าไร มือถือปัจจุบันราคาลดลงอย่างมากจากอดีตเมื่อเทียบกับคุณสมบัติที่เท่ากัน เราจึงไม่จำเป็นต้องจ่ายแพง แต่ก็ได้มือถือดีสเป็คแรงมาครอบครองได้แล้ว
2.) ความเร็วในการประมวลผล หรือ CPU ปัจจุบันมือถือพัฒนาไปเร็วมาก สามารถทำงานได้เกือบเทียบเท่าคอมพิวเตอร์ที่บ้านเลยทีเดียว CPU มีหน่วยวัดเป็น GHZ และยังมีแกนสมองเรียกว่า Core แกนยิ่งมาก ยิ่งมีความเร็วในการประมวลผลมากยิ่งขึ้น Single Core คือมี 1 แกน Dual Core คือมี 2 แกน Quad Core คือมี 4 แกน ในปัจจุบันแนะนำให้ซื้อแบบ Dual Core และมีความเร็วตั้งแต่ 1.2 GHZ ขึ้นไป
3.) Ram คือหน่วยความจำที่ช่วยในการประมวลผลของ CPU มีหน่วยวัดเป็น GB ในอดีตแรมจะมีขนาดเล็กมีหน่วยวันเป็น MB เช่น 512 MB ปัจจุบัน แรมจะเริ่มต้นที่ 1 GB หรือเท่ากับ 1024 MB นั้นเอง ควรเลือกซื้อมือถือที่มีแรมมากๆ จะช่วยให้เครื่องทำงานได้เร็วและลื่นไหลมากขึ้น
4.) เนื้อที่ในการจัดเก็บข้อมูลในเครื่องหรือถ้าเป็นในคอมพิวเตอร์ที่บั้นก็เรียกว่า Hardisk นั้นเอง มีหน่วยวัดเป็น GB ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกแบบที่สามารถใส่หน่วยความจำเพื่อได้ หรือมีพอร์ท SD CARD เพราะว่าถ้าความจำในเครื่องเต็ม เราก็ยังมีทางเลือกที่จะเก็บไว้ใน SD CARD แทน
5.) พอร์ทการเชื่อมต่อต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารและการถ่ายโอนข้อมูล แนะนำควรจะต้องมี mini usb , บลูทูต , ช่องเสียบหูฟังแบบมาตรฐาน 3.5 มม. และควรมี GPS เพื่อประโยชน์ในการนำทางดูแผนที่ได้
6.) เรื่องการรองรับสัญญาณมือถือในบ้านเรา ต้องดูให้ชัดเจนว่ารองรับเครือข่ายที่เราใช้อยู่หรือไม่
AIS (เอไอเอส) ในส่วนของผู้ให้บริการเครือข่ายอย่าง AIS มีคลื่นความถี่ดังนี้ครับ
• TH GSM ถ้าเป็นระบบ 2G และ 3G จะใช้คลื่นความถี่ 900 MHz
• AIS ในส่วนของระบบ 3G จะใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz
DTAC (ดีแทค) จะมีคลื่นความถี่ที่ใช้งานในเครือข่ายทั้งหมดดังนี้ครับ
• TH DTAC ถ้าเป็นระบบ 2G จะใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz ส่วนระบบ 3G จะใช้คลื่นความถี่ 850 MHz
• Dtac TriNet ระบบ 3G จะใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz
TRUEMOVE (ทรูมูฟ) จะมีเครื่อข่ายที่หลากหลายรูปแบบนะครับ
• TRUE ระบบ 2G ใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz และ 3G ใช้คลื่นความถี่ 850 MHz
• TH 3G+ ระบบ 3G ใช้คลื่นความถี่ 850 MHz
• TRUE 3G+ ระบบ 3G ใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz และ 4G ใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz
7.) เรื่อง ขนาดจอ กล้อง ไฟแฟลต ลำโพง ขนาดแบตตารี่ และเรื่องรับประกันหลังการขาย อันนี้แล้วแต่ชอบเลย แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน พูดง่ายๆ เลือกตามที่ชอบและเหมาะสมกับการนำมาใช้งานของแต่ละคน เช่นถ้าจะเอามาพิมพ์แชทติดต่องาน ก็ควรเลือกจอที่มีขนาดใหญ่เพื่อให้อ่านง่ายพิมพ์เร็ว ถ้าเอามาไว้โทรเฉยๆ ก็เลือกแบบธรรมดาจอไม่ต้องใหญ่ มีปุ่มกดตัวเลขง่ายๆ เป็นต้น
8.) เรื่องสำคัญสุดท้ายที่จะต้องเขียนคือ เรื่องระบบปฎิบัติการ ตอนนี้ในตลาดบ้านเรามีอยู่หลักๆ คือ Android พัฒนาโดย google ระบบต่อมาคือ iOS จาก apple และจากค่าย Microsoft มี Symbia และ WindowsPhone แนะนำให้เลือก Android เพราะมีความหลากหลายและมีความสามารถในการเชื่อมต่อได้กับทุกระบบ แค่ชื่อ google ก็เป็นการันตีได้แล้ว ทุกวันนี้เราจะหาข้อมูลอะไร เราก็เปิดหาที่ google ใช้อีเมลล์ ก็เมลล์ของ google จากผลการสำรวจล่าสุดจาก Consumer Intelligence Research Partners หรือ CIRP ได้เผยว่า จำนวนผู้ที่ซื้อ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในสหรัฐฯ นั้น ส่วนใหญ่มาจากผู้ที่ใช้ iPhone อยู่แล้ว มีคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ iPhone เพียง 12% ลดลงถึง 11% เมื่อเทียบจากปีก่อนคือ 23 % แสดงให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่เลือกใช้มือถือ Android ที่พัฒนาโดย google
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น